เมื่อวันที่ ๒๒ มิ.ย. ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา บนเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศพระราชกำหนด การบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ ระบุรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการทํางานของคนต่างด้าวและกฎหมาย ว่าด้วยการนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศ
พระราชกําหนดนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๘ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๘ และมาตรา ๔๐ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
พระราชกําหนดนี้มีสาระสําคัญเป็นการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ โดยกําหนดหลักเกณฑ์การนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศและการทํางานของคนต่างด้าว และให้มีคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าวซึ่งมีอํานาจ กําหนดนโยบายและกํากับการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว ซึ่งพระราชกําหนดนี้มีบทบัญญัติบางประการที่มีผลเป็นการจํากัดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคล เสรีภาพในเคหสถานของบุคคล เสรีภาพของบุคคลในการเขียน การพิมพ์ และการโฆษณา สิทธิในทรัพย์สินของบุคคล และเสรีภาพของบุคคลในการประกอบอาชีพ
โดยมีการจํากัดสิทธิและเสรีภาพเพียงเท่าที่จําเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าวให้เป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกําหนดขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกําหนดนี้เรียกว่า “พระราชกําหนดการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐”
มาตรา ๒ พระราชกําหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๗ รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจประกาศกําหนดให้งานใดเป็นงานที่ห้ามคนต่างด้าวทําในท้องที่ใด เมื่อใด โดยห้ามเด็ดขาดหรือห้ามโดยมีเงื่อนไขอย่างใดเพียงใดก็ได้
การออกประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้คํานึงถึงความมั่นคงของชาติ โอกาสในการประกอบอาชีพของคนไทย และความต้องการแรงงานต่างด้าวที่จําเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
มาตรา ๘ ห้ามคนต่างด้าวทํางานที่กําหนดไว้ในประกาศที่ออกตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่งหรือทํางานโดยไม่มีใบอนุญาตทํางาน
มาตรา ๙ ห้ามผู้ใดรับคนต่างด้าวทํางานที่กําหนดไว้ในประกาศที่ออกตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง หรือรับคนต่างด้าวทํางานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทํางานมาตรา ๑๐ บทบัญญัติมาตรา ๗ ไม่ใช้บังคับแก่การทํางานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๖๔
ในกรณีหนังสือสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือมีความผูกพันตามพันธกรณีกําหนดให้คนต่างด้าวทํางานตามที่กําหนดไว้ในประกาศที่ออก
ตามมาตรา ๗ วรรคหนึ่ง ได้ คนต่างด้าวนั้นต้องได้รับอนุญาตทํางานตามบทบัญญัติและเงื่อนไขของหนังสือสัญญานั้นด้วย
มาตรา ๑๑ รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจประกาศกําหนดค่าธรรมเนียมเพื่อเรียกเก็บจากนายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวทํางานตามประเภทงานที่กําหนดในราชอาณาจักรได้ผู้ใดประสงค์จะจ้างคนต่างด้าวตามวรรคหนึ่งต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีและชําระค่ธรรมเนียมก่อนทําสัญญาจ้าง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนดผู้ใดไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติในวรรคสองต้องเสียเงินเพิ่มอีกหนึ่งเท่าของจํานวนค่าธรรมเนียม ที่ต้องชําระ
มาตรา ๑๒ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๙ วรรคหนึ่ง มาตรา ๖๓ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๖๔วรรคสอง รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจประกาศกําหนดงานประเภทใดซึ่งต้องได้รับการจัดสรรจํานวนคนต่างด้าวเข้าทํางาน ในการนี้ รัฐมนตรีจะกําหนดเงื่อนไขอย่างใดไว้ด้วยก็ได้
มาตรา ๑๓ เมื่อมีการประกาศตามมาตรา ๑๒ แล้ว หากบุคคลใดจะจ้างคนต่างด้าวทํางานตามมาตรา ๑๒ กับตน ให้ยื่นคําขออนุญาตจ้างคนต่างด้าวเข้าทํางานต่ออธิบดีได้การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกําหนด
มาตรา ๑๔ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะอนุญาตให้บุคคลดังต่อไปนี้ทํางานในราชอาณาจักรภายใต้เงื่อนไขใด ๆ หรือจะยกเว้น ไม่จําต้องปฏิบัติตามพระราชกําหนดนี้ ในกรณีใด ๆ ก็ได้
(๑) ผู้รับอนุญาตให้นําคนต่างด้าวมาทํางานหรือนายจ้างนําคนต่างด้าวมาทํางานในประเทศ
(๒) คนต่างด้าวเข้ามาทํางานในราชอาณาจักร
มาตรา ๑๕ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรและความปลอดภัยสาธารณะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจประกาศกําหนดเขตที่พักอาศัยสําหรับผู้รับอนุญาตให้ทํางาน เฉพาะจําพวกใดหรือท้องที่ใดก็ได้
มาตรา ๑๔๕ บรรดากฎหรือคําสั่งใดๆ ที่ได้ออกหรือสั่งโดยอาศัยอํานาจตามความพระราชบัญญัติการทํางานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๒๑ พระราชบัญญัติการทํางานของคนต่างด้าวพ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชกําหนดการนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๙ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชกําหนดนี้ จนกว่าจะมีกฎหรือคําสั่งใด ๆ ที่ออกตามพระราชกําหนดนี้ใช้บังคับ
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกําหนดฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติการทํางานของคนต่างด้าวพ.ศ. ๒๕๕๑ และพระราชกําหนดการนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๙ มีบทบัญญัติที่ไม่ครอบคลุมการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าวทั้งระบบ ทําให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ดังนั้น เพื่อให้สามารถทําการจัดระเบียบ การป้องกัน การคุ้มครอง การเยียวยา และการใช้บังคับกฎหมาย รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการการทํางานของคนต่างด้าวได้ทั้งระบบ อันจะเป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านแรงงาน เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ ซึ่งเป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจําเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ จึงจําเป็นต้องตราพระราชกําหนดนี้
อ่านราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็ม
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/065/1.PDF